วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2555

บทอธิษฐานจิต

“ระตะนัตตะยานุภาเวนะ ด้วยอานุภาพแห่งพระรัตนตรัย ขอให้ทุกข์ โศก โรค ภัย ศัตรู อุปสรรคอันตรายทั้งปวงของข้าพเจ้าจงพินาศไป ขอความชนะ ความสำเร็จ ทรัพย์และลาภ ความสวัสดี ความมีโชค ความสุข ความมีกำลัง สิริ อายุ วรรณะ โภคสมบัติ ธรรมสารสมบัติ และความสำเร็จกิจในการเป็นอยู่ จงบังเกิดมีแก่ข้าพเจ้า หากข้าพเจ้ายังไม่ถึงซึ่งนิพพาน ยังต้องวนเวียนอยู่ในวัฏสงสาร ขอให้ข้าพเจ้าได้เกิดเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ไปเกิดในตระกูลที่ดี เป็นสัมมาทิฏฐิ เป็นผู้มีธรรมบริสุทธ์ ตราบเท่าถึงพระนิพพาน เทอญ นิพพานะปัจจะโยโหตุ”


*****************

คำอธิษฐานจิตขอบุญบารมี ท่านสามารถตั้งสัตยาธิษฐานต่างจากนี้ได้ ขอให้เป็นสิ่งที่ชอบประกอบด้วยธรรม เป็นอันใช้ได้ทั้งนั้น

วันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2555

ใช้โปรแกรม NSS เวอร์ชั่น 8.0 แบบไม่ต้องง้อโปรเจ็คเตอร์

โปรดอ่านรายละเอียดได้จากลิงก์ต่อไปนี้ http://hotfile.com/dl/143634321/b6bacfa/using_nssv8.pdf.html

วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2555

ความแตกต่างของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (eBook) กับหนังสือทั่วไป

Wednesday, 05 January 2011 00:09

Written by VirusT




ความแตกต่างของหนังสือทั้งสองประเภทจะอยู่ที่รูปแบบของการสร้าง การผลิตและการใช้งาน เช่น

1. หนังสือทั่วไปใช้กระดาษ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ไม่ใช้กระดาษ (อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้)

2. หนังสือทั่วไปมีข้อความและภาพประกอบธรรมดา หนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถสร้างให้มีภาพเคลื่อนไหวได้

3. หนังสือทั่วไปไม่มีเสียงประกอบ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถใส่เสียงประกอบได้

4. หนังสื่อทั่วไปแก้ไขปรับปรุงได้ยาก หนังสื่ออิเล็กทรอนิกส์สามารถแก้ไขและปรับปรุงข้อมูล (update) ได้ง่าย

5. หนังสือทั่วไปสมบูรณ์ในตัวเอง หนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถสร้างจุดเชื่อมโยง (links) ออกไปเชื่อมต่อกับข้อมูลภายนอกได้

6. หนังสือทั่วไปต้นทุนการผลิตสูง หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ต้นทุนในการผลิตหนังสือต่ำประหยัด

7. หนังสือทั่วไปมีขีดจำกัดในการจัดพิมพ์หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ไม่มีขีดจำกัดในการจัดพิมพ์สามารถทำสำเนาได้ง่ายไม่จำกัด

8. หนังสือทั่วไปเปิดอ่านจากเล่ม หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ต้องอ่านด้วยโปรแกรม ผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์

9. หนังสือทั่วไปอ่านได้อย่างเดียว หนังสืออิเล็กทรอนิกส์นอกจากอ่านได้แล้วยังสามารถสั่งพิมพ์(print)ได้

10. หนังสือทั่วไปอ่านได้ 1 คนต่อหนึ่งเล่ม หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ 1 เล่ม สามารถอ่านพร้อมกันได้จำนวนมาก (ออนไลน์ผ่านอินเทอร์เน็ต)

11. หนังสือทั่วไปพกพาลำบาก (ต้องใช้พื้นที่) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์พกพาสะดวกได้ครั้งละจำนวนมากในรูปแบบของไฟล์คอมพิวเตอร์ ใน handy drive หรือ CD

วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2555

ช่องทางสำหรับการติดต่อ

สำหรับท่านที่แวะเวียนมายังบล็อกของฉันซึ่งมีชื่อบล็อกว่า Phaisan2006 แล้ว อยากจะติดต่อกับเจ้าของบล็อก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้


- โปรแกรมที่ต้องการดาวน์โหลดไม่ว่าใหม่หรือเก่า

- เพลง ไม่ว่าจะเป็นเพลงสากล เพลงจีน เพลงไทยทำนองจีน เพลงไทยลูกทุ่ง และเพลงไทยลูกกรุง ย้ำว่าเป็นเพลงรุ่นเก่า

- หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์อีบุ๊คที่เป็นคู่มือการใช้โปรแกรม หรือไฟล์เอกสารต่าง ๆ

- ภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาพคลิปอาร์ต ภาพพื้นหลัง ภาพแผนที่ ภาพอื่น ๆ

- บทความอิเล็กทรอนิกส์

สามารถติดต่อกับฉันได้ทางอีเมล์ phaisan2006@gmail.com นี้เท่านั้น

วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2555

ช่องทางสำหรับการดาวน์โหลด

สำหรับท่านที่ต้องการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ เพลง อีบุ๊ค ภาพ บทความอิเล็กทรอนิกส์ และอื่น ๆ ขอให้ใช้ลิงก์ดังต่อไปนี้ http://www.phaisan2006.in.th/webboard/  http://www.phaisan2006.in.th/phpbb3/  และ http://www.phaisan2006.net/webboard/  :http://www.phaisan2006.net/phpbb3/    ซึ่งขณะนี้กำลังทยอยเพิ่มในเว็บบอร์ดดังกล่าวอยู่ครับ  ขอเชิญท่านที่สนใจติดตามได้เรื่อย ๆ ครับ

วันอังคารที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2555

ความในใจ ตอนที่ 16 (สุดท้าย) : อดีตที่เคยเป็นและอนาคตที่อยากจะทำ

ความในใจ  ตอนที่ 16 (สุดท้าย) : อดีตที่เคยเป็นและอนาคตที่อยากจะทำ  

               
                ฉันเริ่มทำงานเป็นข้าราชการครู ตั้งแต่วันที่  21  มิถุนายน  2522  ในตำแหน่งครู 1 ระดับ 1 โรงเรียนบ้านภูเขาทอง  กิ่งอำเภอสุคิริน  จังหวัดนราธิวาส  ประมาณปีเศษ  แล้วมาช่วยราชการที่สำนักงานการประถมศึกษากิ่งอำเภอสุคิริน  ต่อมาย้ายมาปฺฏิบัติงานที่โรงเรียนบ้านสุไหงโก-ลก  อำเภอสุไหงโก-ลก  จังหวัดนราธิวาส  ในเดือนสิงหาคม  2527  และขอเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด  เนื่องจากสุขภาพไม่ดี  เพราะป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิต้านทานตัวเอง  ในวันที่  1  ตุลาคม  2554  รวมอายุราชการ  32 ปีเศษ  เพราะฉะนั้นอดีตที่เคยเป็นและอนาคตที่อยากขะทำจึงมีดังนี้
ที่
อดีตที่เคยเป็น
อนาคตที่อยากจะทำ
1.
ครูโรงเรียนบ้านภูเขาทอง
สร้างรั้วข้างบ้าน
2.
รักษาการในตำแหน่งครูใหญ่โรงเรียนบ้านภูเขาทอง
ซ่อมแซมระบบไฟฟ้าภายในบ้าน
3.
ช่วยราชการที่ สปก.สุคิรินในตำแหน่งเจ้าหน้าที่การเงิน
ห้องสมุด
4.
ครูโรงเรียนบ้านสุไหงโก-ลก
สวนพฤกษชาติพุทไธศวรรย์
5.
เจ้าหน้าที่พัสดุ
ห้องคอมพิวเตอร์พร้อมเครื่องเสียง
6.
เจ้าหน้าที่ดูแลห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ช่วงชั้นที่ 2

7.
สอนคอมพิวเตอร์ ชั้น ป.6 ตั้งแต่ปี  2541-2554

8.
เว็บมาสเตอร์เว็บไซต์ของโรงเรียนบ้านสุไหงโก-ลก

9.
เว็บมาสเตอร์เว็บไซต์ของห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์

10.
วิทยากรให้การอบรมด้านคอมพิวเตอร์

11.
หัวหน้ากลุ่มบริหารงบประมาณ

12.
รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน

13.
เว็บมาสเตอร์เว็บไซต์ส่วนตัว


วันจันทร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2555

ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ตัวโปรด

โปรดอ่านรายละเอียดได้จากลิงก์ต่อไปนี้  http://hotfile.com/dl/140921777/ef2b99d/software_download.pdf.html

E-book เรื่อง โพชฌังคปริตร พุทธฤทธิ์ พิชิตโรค

E-book  เรื่อง  โพชฌังคปริตร  พุทธฤทธิ์  พิชิตโรค  ท่านสามารถดาวน์โหลดได้จากสิ่งก์ต่อไปนี้  http://www.phaisan2006.in.th/photchangkhaparit.pdf

วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2555

ความในใจ ตอนที่ 15 : การถูกโกง

คำว่า โกง ตามพจนานุกรม ถ้าเป็นคำวิเศษณ์ แปลว่า คด ไม่ตรง ถ้าเป็นคำกริยา แปลว่า เอาเปรียบ คิดคด ไม่ตรงไปตรงมา ยักยอกเอา เบียดบังเอา สรุปง่าย ๆ ก็คือ เบี้ยว นั่นเอง


มีใครบ้างที่ไม่ถูกโกง หลายคนคงถูกโกงมาแล้ว ฉันก็เคยถูกโกงมาแล้วเช่นกัน จำได้ว่า สั่งซื้อของทางอินเทอร์เน็ต โอนเงินให้ไปแล้วกลับไม่ได้รับของ 2 ครั้งด้วยกัน ให้เขายืมเงิน แล้วลูกหนี้ไม่จ่ายคืนก็มีหลายราย คิดเป็นเงินที่ไม่ได้คืนก็หลายหมื่นบาท ฉันก็ต้องถือว่ามันเป็นกรรมไม่ดีของเขา สักวันหนึ่งก็ต้องได้รับผลกรรมนั้น ไม่ช้าก็เร็ว

วิธีแก้ก็คือ เมื่อถูกโกงไปแล้ว ให้ถือเสียว่า ชาติก่อนเราเคยเป็นหนี้เขา ชาตินี้จึงถูกโกง หรือฉันจะถือว่าเป็นการทำบุญ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้บุญก็ตาม สรุปง่าย ๆ ก็คือ ยอมตัดใจ

วันเสาร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2555

ความในใจ ตอนที่ 14 : มีความสันโดษ

มีความสันโดษ ตรงกับมงคลชีวิต 38 ประการข้อที่ 24 ความสันโดษคืออะไร สันโดษ มาจากภาษาบาลีว่า สันโตสะ สัน แปลว่า ตน โตสะ แปลว่า ยินดี สันโดษ จึงแปลว่า ยินดี ชอบใจ พอใจ อิ่มใจ จุใจ สุขใจ กับของของตน ความหมายโดยย่อ คือ ให้รู้จักพอ รู้จักประมาณ


คำว่าสันโดษไม่ได้หมายถึงการอยู่ลำพังคนเดียวอย่างเดียวก็หาไม่ แต่หมายถึงการพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ ในของของตัว ซึ่งท่านได้ให้นิยามที่เป็นลักษณะของความสันโดษเป็นดังนี้ คือ

1.ยถาลาภสันโดษ หมายถึงความยินดีตามมีตามเกิด คือมีแค่ไหนก็พอใจเท่านั้น เป็นอยู่อย่างไรก็ควรจะพอใจ ไม่คิดน้อยเนื้อต่ำใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่

2.ยถาพลสันโดษ หมายถึงความยินดีตามกำลัง เรามีกำลังแค่ไหนก็พอใจเท่านั้น ตั้งแต่กำลังกาย กำลังทรัพย์ กำลังบารมี หรือกำลังความสามารถ เป็นต้น

3.ยถาสารูปสันโดษ หมายถึงความยินดีตามควร ซึ่งโยงใยไปถึงความพอเหมาะพอควรในหลายๆเรื่อง เช่นรูปลักษณ์ของตนเอง และรวมทั้งฐานะที่เราเป็นอยู่

สามารถอ่านราบละเอียดเพิ่มเติมได้จากลิงก์ต่อไปนี้ http://yashima.exteen.com/20070830/entry 

วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2555

ความในใจ ตอนที่ 13 : ของฟรีไม่มีในโลก

คนส่วนใหญ่มักชอบของฟรี แต่เชื่อไหมว่า ของฟรีไม่มีในโลก ฉันเองก็ชอบของฟรี แต่ก็ควรระมัดระวัง เพราะว่าบางครั้งก็ฟรีแบบมีเงื่อนไข หรือได้บางอย่างแถมมาด้วย


ในโลกอินเทอร์เน็ตก็มีของฟรีมากมาย เป็นต้นว่า ให้พื้นที่ทำเว็บฟรี เว็บบอร์ดฟรี ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรี ดาวน์โหลดภาพยนตร์หรือวิดีโอฟรี ดาวน์โหลดอีบุ๊คฟรี ดาวน์โหลดเพลงฟรี ให้พื้นที่ฝากไฟล์ฟรี เป็นต้น แต่จะเชื่อไหมว่า เราก็ต้องลงทุนเพื่อแลกมันมาเหมือนกัน เพราะเราต้องกระทำกับเครื่องคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊ค ไม่ว่าจะเป็นค่าไฟฟ้า ค่าแบตเตอรี่ ค่าเสียเวลา ในบางครั้งก็ได้ไวรัสแถมมาด้วย โดยเฉพาะผู้ที่ชอบใช้โปรแกรมที่มีลิขสิทธิ์ แต่ไม่อยากเสียค่าลิขสิทธิ์ หรือที่เรียกว่าใช้โปรแกรมเถื่อน แล้วไปหาโปรแกรมแคร็กจากเว็บไซต์ที่แจกแคร็กโปรแกรมต่าง ๆ เว็บไซต์จำพวกนี้มักจะมีไวรัสหรือโทรจันเป็นของแถมมาให้ด้วย บางครั้งก็ได้รับอีเมล์จากคนที่เราไม่รู้จัก แจ้งว่าอีเมล์ของคุณได้รับรางวัลบ้าง หรือคุณถูกรางวัลล็อตเตอรี่บ้าง เขาจะให้เจ้าของอีเมล์อ้างสิทธิ เป็นต้น ซึ่งอีเมล์จำพวกนี้ฉันมักจะย้ายไปลงถังขยะหมดโดยไม่ได้ให้ความสนใจมันเลยแม้แต่น้อย

จงเชื่อเถิดว่า หว่านพืชแล้วเขาจะไม่หวังผล ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหน สักวันหนึ่งเขาก็ต้องถอนทุนคืน

วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2555

ความในใจ ตอนที่ 12 : การคิดบวก

เรื่องของการคิดบวกก็คือการมองโลกในแง่ดี เมื่อมีอุปสรรคก็ถือเสียว่ามันเป็นบททดสอบของชีวิต บนถนนเส้นทางของชีวิตจะไม่ราบเรียบเสมอไป เปรียบเหมือนดั่งทะเลย่อมมีคลื่นลม ขึ้นอยู่ว่าเราจะประคับประคองชีวิตให้มีความอยู่รอดในใลกใบนี้ได้อย่างไรเท่านั้น จึงอยากจะเสนอข้อเตือนใจเรื่องการคิดบวกของท่าน ว.วชิรเมธี ดังนี้


*การคิดบวก*

เวลาเจองานหนัก --->นี่คือโอกาสให้เตรียมพร้อมการเป็นมืออาชีพ

เวลาเจอความทุกข์หนัก --->นี่คือแบบฝึกหัดที่จะช่วยให้เกิดทักษะในการดำเนินชีวิต

เวลาเจอคำตำหนิ --->นี่คือการชี้ขุมทรัพย์มหาสมบัติ

เวลาเจอคำนินทา --->นี่คือการสะท้อนให้เห็นว่าเรายังมีความหมาย

เวลาเจอความผิดหวัง --->ธรรมชาติกำลังสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเรา

เวลาลูกหัวดื้อ --->โอกาสทองที่จะพิสูจน์ความเป็นพ่อเป็นแม่ที่แท้จริง

เวลาเจอแฟนทิ้ง --->ความเป็นอนิจจังที่ทุกคนต้องเจอ

เวลาเจอคนเลว --->คือตัวอย่างของชีวิตที่ไม่พึงประสงค์

เวลาเจออุบัติเหตุ --->นี่คือคำเตือนว่าอย่าประมาทอีก

เวลาคนคอยกลั่นแกล้ง --->นี่คือบททดสอบที่ว่ามารไม่มีบารมีไม่เกิด

เวลาเจอความจน --->วิธีที่ธรรมชาติเปิดโอกาสให้เราได้ต่อสู้ชีวิต

เวลาเจอความตาย --->นี่คือฉากสุดท้ายที่จะทำให้ชีวิตสมบูรณ์

ว. วชิรเมธี

ส่วนการคิดบวกของสามัญชนมักจะคิดอีกรูปแบบหนึ่ง เช่น

*การคิดบวก(ของสามัญชน)*

เวลาเจองานหนัก --->มีธุระที่บ้านด่วน

เวลาเจอทุกข์หนัก --->กินเหล้าหาที่ระบายออก


เวลาเจอคำตำหนิ --->มึงเก่งมึงก็ทำเองสิ

เวลาเจอคำนินทา --->ช่างหัวมันไม่ได้ขอข้าวมันกิน

เวลาเจอความผิดหวัง --->พระเจ้าทำไมไม่เข้าข้างเราบ้าง

เวลาเจอลูกหัวดื้อ --->นี่แหละตัวกูตอนเป็นเด็ก

เวลาเจอแฟนทิ้ง --->เป็นโอกาสดีที่จะหาประสบการณ์ใหม่

เวลาเจอคนเลว --->กูมีเพื่อนเพิ่มอีกคนแล้ว

เวลาเจออุบัติเหตุ --->ช่วงเวลาของการพักผ่อนของชีวิต

เวลาเจอคนคอยกลั่นแกล้ง--->มีอำนาจก็ทำไปอย่าให้ถึงทีกูบ้างจะเอาให้เจ็บเป็นสองเท่า

เวลาเจอความจน --->ดวงไม่ค่อยดีพรุ่งนี้ยังมีโอกาส

เวลาเจอความตาย --->หมดเวรหมดกรรมเสียที(แต่ไม่มีใครอยากหมด)

ว.วิชาญ (เพื่อนผมมันชื่อวิชาญ)




วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2555

ความในใจ ตอนที่ 11 : ความล้มเหลวกับความสำเร็จ

ก่อนทึ่คนเราจะประสบความสำเร็จได้ ย่อมต้องพบกับความล้มเหลวมาก่อนทั้งสิ้น เมื่อเรามีความเพียรมากขึ้นเท่าใดก็ย่อมประสบความสำเร็จได้ทุกเมื่อ ดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า คนล่วงทุกข์ได้ เพราะความเพียร *****. วิริเยน ทุกฺขมจฺเจติ


แต่เป้าหมายความสำเร็จของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน บางคนตั้งความหวังไว้สูงเกินไปก็อาจที่จะไม่สำเร็จก็ได้ ฉะนั้นเราควรตั้งเป้าความสำเร็จไว้ที่ความพอดี โดยยึดทางสายกลางเป็นหลัก เมื่อทำสำเร็จแล้วค่อยขยับขยายต่อไป และไม่ควรเกิดความท้อถอย ท้อแท้ หมดอาลัยตายอยาก ควรมีความมุ่งมั่น เพราะชีวิตคือการต่อสู้ มักจะต้องเจอกับอุปสรรคทั้งสิ้น

ฉะนั้น อยากจะประสบความสำเร็จในชีวิต ต้องพิชิตอุปสรรคให้ได้ก่อน มีความเพียรเรื่อยไปไม่บั่นทอน ประสบสุขแน่นอนก็เพราะเพียร

วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2555

ความในใจ ตอนที่ 10 : คุณภาพของคน

คุณภาพของคน ในที่นี้ หมายถึง ความดีในตัวคน แบ่งออกเป็น 3 ขั้น 3 เรื่อง คือ 1. ความรู้ดี 2. ความสามารถดี 3. ความประพฤติดี ทั้ง 3 ดีนี้ ถ้าใครมีครบในตัวก็เป็นยอดดี ถ้าคนไหนไม่มีครบ ความดีก็ลดลง จืดจางลง


ประการแรก ความรู้ดี เป็นเรื่องของสมอง เป็นเรื่องความคิด ความฉลาด ซึ่งเก็บสะสมมาจากวิชาการ จากข้อมูล จากการสังเกตมากๆ ทำให้เกิดความรู้กว้างขวาง ทำให้เรารู้ไปสารพัดเรื่อง

ประการที่สอง สามารถดี เกิดจากการฝึกฝน อบรม ประกอบกิจการงานได้คล่อง มีประสบการณ์ มีการประกอบกิจมาก คือ มีความคล่องในการทำงาน มีผลงานเป็นเครื่องรับรอง

ประการสุดท้าย ความประพฤติดี ครอบคลุมประคองดีอื่นๆ ให้ปลอดภัย ที่ว่าประพฤติดีหมายถึงการเคลื่อนไหวของชีวิต ไม่ไปสร้างความเสื่อมเสีย กระทบกระทั่งให้ใครเสียหาย ความดีส่วนนี้ จะช่วยให้เราอยู่ในโลก ในสังคมได้อย่างราบรื่น ปลอดภัยและเป็นเครื่องช่วยสนับสนุนความดีข้างต้นให้อยู่รอดปลอดภัยให้เป็นดีแท้ ปราศจากพิษ ปราศจากภัย ถ้าปฏิบัติตามหลักธรรมของมงคล 38 ประการก็จะเป็นคนดีอย่างแน่นอน

บ้านเมืองใด ประเทศใดมีประชากรที่มีคุณภาพ บ้านเมืองนั้น ประเทศนั้นก็จะมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมั่นคง

วันจันทร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2555

ความในใจ ตอนที่ 9 : ความอดทน

ขันติ (สันสกฤต: kṣānti' ,กษันติ) หมายถึง การรักษาปกติภาวะของตนไว้ได้ ไม่ว่าจะถูกกระทบกระทั่งด้วยสิ่งอันเป็นที่พึงปรารถนา หรือไม่พึงปรารถนาก็ตาม มีความมั่นคงหนักแน่นเหมือนแผ่นดิน ซึ่งไม่หวั่นไหว ไม่ว่าจะมีคนเทอะไรลงไป ของเสีย ของหอม ของสกปรกหรือของดีงามก็ตาม


ลักษณะความอดทนที่ถูกต้อง

1. อดทนถอนตัวหรือหลีกเลี่ยงจากความชั่วให้ได้

2. อดทนทำความดีต่อไป

3. อดทนรักษาใจไว้ไม่ให้เศร้าหมอง

ประเภทของความอดทน

ความอดทนแบ่งตามเหตุที่มากระทบได้เป็น 4 ประเภทคือ

1. อดทนต่อความลำบากตรากตรำ เป็นการอดทนต่อสภาพธรรมชาติ ดินฟ้าอากาศ ความหนาว ความร้อน

2. อดทนต่อทุกขเวทนา เป็นการอดทนต่อการเจ็บไข้ได้ป่วยความไม่สบายกายของเราเอง ความปวด ความเมื่อย

3. อดทนต่อความเจ็บใจ เป็นการอดทนต่อความโกรธ ความไม่พอใจ ความขัดใจ อันเกิดจากคำพูดที่ไม่ชอบใจ กิริยามารยาทที่ไม่งาม บางคน เพียงถูกคนโน้นกระทบที คนนี้กระแทกที เขาว่าหน่อยค่อนขอดนิด ก็อึดอัดเจ็บใจบางคนทนต่อความเจ็บใจได้บ้าง เพราะเขาเป็นผู้บังคับบัญชาของตน ถึงจะทนไม่ได้ก็ต้องทน การทนอย่างนี้ได้ถือว่ายังไม่เรียกว่า ขันติบางคนทนต่อความเจ็บใจ ต่อคำพูดของคนในระดับเดียวกัน พรรคพวกเพื่อนฝูงในที่ทำงานเดียวกันได้ถือว่า มีขันติระดับปานกลางส่วนคนที่มีขันติ จริงๆ นั้น ต้องทนต่อการกระทบกระเทียบ เปรียบเปรย การทำให้เจ็บอกเจ็บใจ จากคนใต้บังคับบัญชาหรือผู้ต่ำกว่าได้ ในการทำงานนั้น เราต้องมีการติดต่อกับบุคคลหลายประเภท เพราะแต่ละคนมีการฝึกฝนตนเองต่างกัน ถ้าหากไม่มีขันติแล้ว ก็ไม่อาจจะทำงานให้ออกมาดีได้อย่างเป็นสุข ทั้งบางครั้งยังอาจทำให้มีเรื่องเดือดร้อนมาสู่ตัวเองอีกด้วย

4. อดทนต่ออำนาจกิเลส เป็นการอดทนต่ออารมณ์อันน่าใคร่น่าเพลิดเพลินใจ อดทนต่อสิ่งที่เราอยากทำ แต่ไม่สมควรทำในที่นี้มุ่งหมายถึง การไม่เอาแต่ใจตัว ไม่ยอมปล่อยตัวตามกระแสโลก ความเพลิดเพลิน เช่น ความสนุกสนาน การเที่ยวเตร่ ความฟุ้งเฟ้อต่าง ๆ หรือการได้ผลประโยชน์ในทางที่ไม่ควร เป็นต้น

การที่คนเรามีความอดทนสูง จะเป็นผู้ที่มีจิตใจมุ่งมั่น และประสบความสำเร็จในชีวิต ถือได้ว่าได้ปฏิบัติธรรมตามมงคล 38 ประการ ข้อที่ 27 มีความอดทน นั่นเอง

วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2555

ความในใจ ตอนที่ 8 : การเลี้ยงดูพ่อแม่

การเลี้ยงดูพ่อแม่ถือเป็นหน้าที่ของลูกอยู่แล้ว ตรงตามมงคลชีวิต 38 ประการ ข้อที่ 11 การบำรุงบิดามารดา แต่ก็มีลูกหลายคนที่ไม่ได้เลี้ยงดูพ่อแม่เลยก็มีอยู่ในสังคมปัจจุบัน


ปัจจุบันพ่อกับแม่แก่ชรามากแล้ว พ่ออายุ 93 ปี แก่กว่าฉัน 35 ปี แม่อายุ 81 ปี ทั้งพ่อและแม่ต่างก็ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง เนื่องจากที่บ้านมีเครื่องวัดความดันระบบดิจิตอล ฉันจึงมีหน้าที่วัดความดันให้แม่กับพ่อทุกวัน รวมทั้งต้องจัดยาให้กินทุกวัน ทั้งพ่อกับแม่ไม่สามารถออกจากบ้านไปซื้อของได้ ต้องอยู่จับเจ่าอยู่แต่ในบ้าน พ่อป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงมาก่อนแม่หลายปี แม่เพิ่งมาป่วยล่าสุดเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2553 ก่อนหน้านี้ก็ป่วยมาครั้งหนึ่งแล้ว ส่วนฉันก็ป่วยด้วยโรคแพ้ภูมิต้านทานตัวเองมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2533 มีน้องชายคนเดียวที่ไม่ป่วย แม่ให้กลับมาอยู่บ้าน แกก็ไม่ยอม เพราะแกไปอยู่วัดเสียนาน ภาระหน้าที่ทั้งหมดจึงตกอยู่ที่ลูกชายคนโต ทั้ง ๆ ที่เป็นคนป่วยเหมือนกัน แต่ยังทำงานได้

ฉันได้บรรจุเป็นข้าราชการครูเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2522 ทำงานได้ครบ 100 วัน ฉันได้รับเงินเดือนตกเบิก ฉันก็แบ่งให้แม่ทุกเดือน โดยคิดเป็นอัตราส่วน เมื่อได้รับเงินเดือนเพิ่ม แม่ก็จะได้รับเงินจากลูกชายคนนี้เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ฉันอยู่สุคิรินจนถึงปี 2527 ฉันก็ทำเรื่องขอย้ายกลับมาอยู่ที่โรงเรียนบ้านสุไหงโก-ลก เพราะเป็นโรงเรียนที่อยู่ใกล้บ้านมากที่สุด เดินจากบ้านไปโรงเรียนประมาณ 10 นาทีก็ถึง ฉันตัดสินใจขอเออร์ลี่ในปี 2554 วันที่ 1 ตุลาคม 2554 ฉันก็ไม่ต้องไปทำงาน เป็นข้าราชการบำนาญ อายุราชการของฉันนับ ได้ 32 ปี 3 เดือน 9 วัน ในระหว่างที่ฉันเป็นครู ฉันแบ่งเงินเดือนให้แม่มาตลอด 32 ปีเศษ ล่าสุดให้แม่ 20,000.- บาทต่อเดือน ซึ่งแม่ก็ใช้จ่ายไม่หมด เนื่องจากอยู่บ้านเอง และใช้จ่ายอย่างประหยัด แม่จึงมีเงินเก็บอยู่มากพอสมควร ส่วนลูกชายก็พอมีเงินเก็บอยู่บ้าง ถ้าไม่หมดไปกับการซื้อคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค แผ่นซีดี วีซีดี ดีวีดี หนังสือ ต้นไม้และการทำบุญ ที่ทำบุญมากที่สุดในชีวิตก็คือเป็นเงิน 100,000.- บาท เพื่อสร้างเสาเข็มเจดีย์วัดพระธรรมกาย

ทุกวันนี้ฉันยังอยู่เป็นโสด ยังอยู่บ้านเก่า ๆ หลังเดิม ที่มีต้นไม้ปลูกมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ไม่ใช้โทรศัพท์ของทีโอที ใช้แต่โทรศัพท์เคลื่อนที่ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงก็เพิ่งมีใช้เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2554 เป็นของขวัญให้ตัวเองเมื่ออายุครบ 57 ปี ตอนนี้ได้รับบำนาญเดือนละ 20,000 บาทเศษ แต่ไม่ได้แบ่งเงินให้แม่แล้ว เพราะถือว่า แม่มีมากแล้ว อย่างไรก็ตามฉันก็ต้องก้มหน้าก้มตาอุปการะเลี้ยงดูพ่อแม่ที่แก่ชราต่อไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ แม้ว่าน้องชายจะไม่ได้ส่งเสียเลยก็ตาม